กลุ่มทุนเอาต์เลตบุกเขตศก.พิเศษ ทาบแบรนด์แฟชั่นหรู-ระดมโปรแรงกวาดลูกค้า

กลุ่มทุนเอาต์เลตบุกเขตศก.พิเศษ ทาบแบรนด์แฟชั่นหรู-ระดมโปรแรงกวาดลูกค้า

กลุ่มทุนเอาต์เลตบุกเขตศก.พิเศษ ทาบแบรนด์แฟชั่นหรู-ระดมโปรแรงกวาดลูกค้า

วันที่เริ่ม: 30-11--1 วันสิ้นสุด: 30-11--1

วันที่ 2024-12-11 01:11:04 | ผู้ชม: 1848 | ID: #183924

กลุ่มทุนเอาต์เลตบุกเขตศก.พิเศษ ทาบแบรนด์แฟชั่นหรู-ระดมโปรแรงกวาดลูกค้า



ธุรกิจแฟกตอรี่เอาต์เลตโตรับเทรนด์ท่องเที่ยว-เมืองขยายตัว เอาท์เล็ท มอลล์เร่งลงทุนสาขาใหม่ชิงกำลังซื้อปลายปี เล็งปักธงจังหวัดชายแดน-เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซุ่มเจรจาลักเซอรี่แบรนด์ดังเสริมทัพ อัดโปรโมชั่นแรงกระตุ้นจับจ่าย ค้าปลีกประเภทแฟกตอรี่เอาต์เลต เป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวตามการเติบโตของเมืองและการท่องเที่ยว ซึ่งในตลาดมีผู้เล่นหลัก คือ เอาท์เล็ท มอลล์ ของกลุ่มพีน่าเฮ้าส์ และเอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอาท์เล็ท ของกลุ่มฟลายนาว

ล่าสุด กลุ่มเอาท์เล็ท มอลล์ ได้ขยับทัพครั้งสำคัญทั้งในแง่การนำแบรนด์แฟชั่นพรีเมี่ยมรายใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพ รวมถึงการ ขยายจำนวนสาขาใหม่ โดยเฉพาะทิศทางการเตรียมเข้าไปปักธงในทำเลเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ



เล็งปักธงเขต ศก.พิเศษ
นายพิเชฐ พงพิทักษ์เมธา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอาท์เล็ท มอลล์ จำกัด ผู้บริหารพรีเมี่ยม เอาท์เล็ท มอลล์, เอาท์เล็ท มอลล์ และเอาท์เล็ท วิลเลจ ในเครือพีน่าเฮ้าส์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การขยายตัวของธุรกิจเอาต์เลตมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนของบริษัทที่ต้องการขยายสาขาให้ครอบคลุมเมืองท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันเปิดแล้ว 9 สาขา และเตรียมที่จะเปิดปลายปีสาขาที่ 10 ในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงมองเห็นโอกาสในทำเลเมืองชายแดน ซึ่งทิศทางจากนี้ให้สนใจในจังหวัดชายแดน รวมถึงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยปัจจุบัน 9 สาขาที่เปิดแล้ว ประกอบด้วย พัทยา 2 สาขา ชะอำ เขาใหญ่ กระบี่ ภูเก็ต สมุย อุดรธานี พระนครศรีอยุธยา เอาท์เล็ท มอลล์ ครอบคลุมเมืองท่องเที่ยว

"การขยายยังเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างเชียงใหม่ใช้เวลาหาทำเล 4-5 ปี แนวคิดจากนี้มองทำเลรอยต่อระหว่างประเทศ ซึ่งต้องดูจังหวะที่เหมาะสม พิจารณาเรื่องเศรษฐกิจ การขยายตัวของเมือง เส้นทางคมนาคมที่สะดวกและเชื่อมถึงกันในภูมิภาค รวมถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย"

ขนแฟชั่นลักเซอรี่เสริมทัพ

นอกจากนี้ ทิศทางของพรีเมี่ยม เอาท์เล็ทจากนี้ คือ แบรนด์สินค้าที่เป็นแม่เหล็ก แบรนด์ดังเข้ามาดึงทราฟฟิก ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 300 แบรนด์ แนวทางนี้เป็นการพัฒนาอีกสเต็ปของเอาต์เลตด้วยการเพิ่มแบรนด์แฟชั่นต่างประเทศระดับพรีเมี่ยมเข้ามา ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาทั้งแบรนด์ต่างประเทศที่ทำตลาดในเมืองไทยอยู่แล้ว และแบรนด์ต่างประเทศใหม่ ๆ ที่กำลังจะเข้ามา

ทั้งนี้แนวโน้มจะเริ่มในสาขาที่รองรับนักท่องเที่ยว อาทิ ภูเก็ต ที่มีสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศมากถึง 95% และในสาขาใหม่ ๆ ที่เตรียมจะมีแบรนด์ใหม่ ๆ เหล่านี้เสริมเข้าไป

ปลายปีอวดโฉมสาขาใหม่

หัวเรือใหญ่เอาท์เล็ท มอลล์ ฉายภาพการลงทุนในสาขาใหม่ที่จะเปิดปลายปีนี้ว่า เตรียมเปิดพรีเมี่ยม เอาท์เล็ท เชียงใหม่ ปลายเดือนธันวาคมนี้ เพื่อรองรับกำลังซื้อช่วงเทศกาลส่งท้ายปี ถือเป็นสาขาที่ 10 อยู่บนถนนหางดง มีพื้นที่ทั้งหมด 50 กว่าไร่ เบื้องต้นใช้ไป 30 ไร่ หรือมีพื้นที่ 1.2 หมื่น ตร.ม. งบฯลงทุนที่ดิน 200 ล้านบาท เฟสแรกลงทุนก่อสร้าง 500 ล้านบาท

หลังจากปีที่แล้วเปิดสาขาล่าสุด พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท พัทยา อเวนิว งบฯลงทุน 100 ล้านบาท บนพื้นที่ 7,000 ตร.ม. เป็นการจับมือกับสยามฟิวเจอร์ที่มีโรงภาพยนตร์และกลุ่มแบรนด์ร้านอาหารเปิดให้บริการอยู่แล้ว ทำให้ปัจจุบันในพัทยามี 2 สาขา เพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง ส่วนสาขาอื่น ๆ มีการรีโนเวตอย่างต่อเนื่อง อาทิ ปีที่ผ่านมาได้ลงทุนเฟส 2 ที่กระบี่ ขยายพื้นที่ 2,000 ตร.ม. จากเดิมที่มีอยู่ 5,000 ตร.ม

"สาขากระบี่สร้างเต็มพื้นที่แล้ว มี 7 ไร่ อยุธยาสร้างเต็มพื้นที่ เช่นเดียวกับที่เขาใหญ่ แต่เขาใหญ่ยังมีพื้นที่ด้านข้างซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ เพราะว่าทำเลอยู่บนเส้นทางไฮเวย์ ก็มีโอกาสพัฒนาธุรกิจต่อเนื่องที่ไปคู่กับเอาต์เลตได้"

วันหยุดยาวกระตุ้นยอดโต 4 เท่า

จากทิศทางการลงทุนดังกล่าว นายพิเชฐชี้ว่าจะสามารถเติบโต 7-8% จากปีก่อนที่ปิดรายได้ 3,250 ล้านบาท โดยภาพรวมในปีนี้มองว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังมีการจับจ่ายอยู่ สอดคล้องกับปีนี้มีช่วงวันหยุดยาวส่งผลต่อยอดขายของเอาต์เลตอย่างดี ซึ่งสามารถเติบโตก้าวกระโดด 3-4 เท่าตัวจากช่วงปกติ เห็นได้จากช่วงสงกรานต์ตัวเลขโตเกือบ 10% อย่างไรก็ตามในแง่ของทราฟฟิกลดลงบ้างในบางสาขา อาทิ สาขาพัทยา ซึ่งคนไทยยังเข้ามาจับจ่าย แต่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มรัสเซียหายไปพอสมควรและใช้จ่ายลดลง

นอกจากนี้ บริษัทได้กระตุ้นการจับจ่าย ไม่เพียงสินค้าแบรนด์เนมที่นำมาลดราคา แต่ก็ยังเพิ่มโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย อาทิ การสะสมแสตมป์ครบ 100 ดวง รับไอแพดฟรี หรือช็อปสินค้าด้วยบัตรวีซ่า ครบ 100,000 บาท รับไอแพด รวมถึงเจ้าของแบรนด์ก็มีกิมมิกทางการตลาด อาทิ จัดพื้นที่โปรโมชั่นเซลนอกร้าน ช่วยสร้างบรรยากาศจับจ่ายให้คึกคักยิ่งขึ้น

หวั่นหยุดยาวขาช็อปบินนอก

ด้านนายปรีชา ส่งวัฒนา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทฟลายนาว ผู้ดำเนินธุรกิจเอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท ระบุว่า การมีวันหยุดเยอะทำให้ผู้บริโภควางแผนไปท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจเอาต์เลต แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีวันหยุดยาว กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อส่วนหนึ่งอาจไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะญี่ปุ่นและยุโรป บวกกับสภาพเศรษฐกิจทั่วไปตอนนี้ยังไม่คึกคักมากนัก และธุรกิจรีเทลมีการแข่งขันกันสูงมาก จึงต้องมีกลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ ทำควบคู่ไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท ได้ปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้เข้ากับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ โดยใช้งบฯลงทุนจำนวน 400 ล้านบาท รีโนเวตร้านให้มีรูปแบบที่น่าสนใจทั้งสาขา รองรับไลฟ์สไตล์ปัจจุบันมากขึ้น อาทิ การจัดร้าน การมีแบรนด์ที่หลากหลายเข้ามาเสริมทัพ ทั้งแฟชั่น เครื่องสำอาง นาฬิกา รวมถึงแม็กเนตอื่น ๆ อาทิ ร้านอาหาร ในคอนเซ็ปต์วันสต็อปเซอร์วิส หรือศูนย์รวมช็อปปิ้ง กิน เที่ยว ไว้บนพื้นที่แห่งเดียวกัน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาสินค้าเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของตนเองในชื่อ ไบบูรี โคล์ เบื้องต้นมีไลน์สินค้ากลุ่มสกินแคร์ 6 รายการ วางขายในช่องทางเอาต์เลต โดยมีแผนพัฒนาเพิ่มเป็น 9-10 รายการภายในสิ้นปี รวมถึงขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น



ที่มา  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์



Related